Home
Bread Menu
วิธีการสั่งซื้อสินค้า
แจ้งชำระเงิน
บทความ
เกี่ยวกับเรา
ติดต่อเรา
หน้าแรก
>
บทความ
>
ทำไมเก็บปังในช่องฟรีซถึงดีที่ส…
ทำไมเก็บปังในช่องฟรีซถึงดีที่สุด?
5 ปีที่ผ่านมา
โดย
เจ้าของร้าน
นี้ได้อ่านบทความนี้จากเพจ "
เคมีฟิสิกส์ของสิ่งทอ อาหาร และของรอบตัว" น่าสนใจมากๆเลยทำมาแชร์ให้ชาวปังอ่านกันเป็นเกร็ดความรู้นะคะ...
หลายๆคนคงสงสัยนะครับว่า เอ๊ะ! เวลาเราซื้อขนมปังมาเนี่ย เวลาทานไม่หมดแล้วเก็บไว้ใน
ตู้เย็นเพื่อกะจะทานนานๆนี่
พอเอามาทานนี่ทั้งแข็งและแห
้งเลยเป็นรองเท้าหนังเก่าๆเ
ลยทีเดียว >< ซึ่งการแข็งแห้งนี้ไม่ได้เกี่ย
วกับการที่เราเอาขนมปังทิ้ง
ผึ่งลมไว้นะครับ^^
วันนี้แอดก็จะมาเล่าถึ
ง
#เกร็ดความรู้ที่ไม่จำเป็นต้องรู้ก็ได้
เกี่ยวกับ
#กลไกการแข็งแห้งของขนมปังในตู้เย็น
น
ะครับ ซึ่งการแข็งแห้งแบบนี้เราจะ
เรียกว่า Stali
ng ซึ่งเป็น Gerund ของคำว่า
#Stale
นั่นเอง ^^
ซึ่งปกติแป้ง (Flour) ที่ใช้ประกอบอาหารนั้นจะมีลักษณะของ "ผงแป้ง" (Starch) ที่เป็นผลึกอัดเรียงตัวกันอย่างหนาแน่นและถูกห่อหุ้มด้วยชั้นโปรตีนที่อยู่ภายนอก
เมื่อเรานำแป้งนั้นมาประกอบอาหาร เช่น ขนมปัง หรือผลิตภัณฑ์อื่นๆ โดยที่ผ่านความร้อนมาแล้ว ผลึกของแป้งก็จะมีการคลายตัวออกและเกิดโครงสร้างแป้งนุ่มๆในขนมปัง เนื่องจากพลังงานความร้อนที่เราให้ไป
แต่เมื่อเราประกอบอาหารเสร็จแล้วปล่อยให้เย็นลงแล้วเนี่ย เจ้าผลึกพวกนี้ก็จะเกิดการจัดเรียงตัวกันซ้ำใหม่อีกครั้ง (Recrystallization) ซึ่งก็การจัดเรียงตัวนี้ก็ไม่สามารถจะกลับเข้าสู่รูปเดิมเหมือนตอนก่อนที่จะได้รับความร้อนนะครับ ^^
ซึ่งการจัดเรียงตัวใหม่นี้ เจ้าผลึกพวกนี้ก็ต้องอาศัย "น้ำ" เนี่ยเข้ามาช่วยในการจัดเรียงตัวด้วย ทำให้เค้าต้องไปเบียดบังเอาน้ำจากส่วนอื่นของก้อนขนมปังที่ช่วยทำให้ขนมปังนั้นมีความนุ่มนั้นเข้ามาช่วย ทำให้เกิดปรากฏการณ์ "แห้งผาก" (Dry out) กันทีเดียว นี่แหละครับ ฝรั่งจึงเรียกปรากฏการณ์นี้ว่า Staling bread!!
ซึ่งปกติในขนมปังเนี่ย เราจะมีการใส่เนยหรือไขมันลงไปในสูตรเพื่อเพิ่มกลิ่นและรสชาติของขนมปังให้มีความหอมมันถูกจริตคนทานนะครับ แต่นั่นก็เป็นเพียงแค่เหตุผลรองนะครับ ^^
เพราะไขมันที่เราใส่ลงไปเนี่ยก็มีอีกหน้าที่หนึ่งที่เป็นหน้าที่หลักจริงๆ นั่นก็คือป้องกันขนมปังนั้นเกิดการดึงน้ำจากส่วนอื่นได้ง่าย จากการเกิดการจัดเรียงผลึกซ้ำอีกครั้ง จึงทำให้ขนมปังนั้นๆมีอายุการเก็บที่ยาวนานขึ้นด้วย
แต่ในขนมปังบางสูตร เช่นสูตรของขนมปังฝรั่งเศสที่มีไขมันน้อยนั้น เค้าก็จะมีการเติมสาร Anti-staling agents ลงไปด้วยนะครับ เช่น wheat gluten, enzymes และ glycerolipids แต่โดยมากก็เป็น monoglycerides และ diglycerides ที่เรารู้จักในนามของสารเสริมคุณภาพ SP นั่นเอง เพราะนอกจาก SP จะช่วยทำเค้กเนื้อละเอียดได้ก็ยังใช้ป้องกันขนมปังแข็งทื่อจากปรากฏการณ์นี้ได้เช่นกัน ^^
แต่อย่างไรก็ตามอัตราการเกิดการตกผลึกซ้ำ (Rate of recrystallization) ของเม็ดแป้งเนี่ย จะมีค่าสูงสุดที่อุณหภูมิ 4 องศาเซลเซียส ซึ่งเป็นอุณหภูมิของชั้นแช่ของปกติในตู้เย็นเราเลย จึงทำให้ขนมปังนั้นเกิดการแห้งผากอย่างรวดเร็ว แม้ว่าเราจะใส่ไขมันหรือสาร Anti-staling agents ลงไปด้วยก็ตาม ^^
หากว่าถ้าต้องการเก็บขนมปังไว้ทานนานๆ ก็ควรจะเก็บในช่องฟรีสไปเลย แล้วค่อยมาอุ่นด้วยไมโครเวฟหรือหม้ออบลมร้อนเป็นดีที่สุดครับ ^^
ขอขอบคุณภาพตลกร้ายของผิวสัมผัสของขนมปังยามที่ถูกแช่ในตู้เย็นจากลิงก์นี้ด้วยครับ
http://www.thejournal.ie/burning-question-bread-fridge-1054062-Aug2013/
^^
ขอขอบคุณแอดมิน
เพจ "
เคมีฟิสิกส์ของสิ่งทอ อาหาร และของรอบตัว" คะ
Share
Share :
COPY
ไทย
▾
Copyright © 2025
www.sloafbake.com
All rights reserved.
ตะกร้า
(
0
)
Choose your language
Language
Currency
Change
เปลี่ยนภาษา
▲
▼
รายการสั่งซื้อของฉัน
เข้าสู่ระบบ
สมัครสมาชิก (ฟรี)
รายการสั่งซื้อของฉัน
ข้อมูลร้านค้านี้
Sloafbake
Homemade Sourdough & else.
เบอร์โทร :
0814528290
อีเมล :
sloafbake@gmail.com
ส่งข้อความติดต่อร้าน
เกี่ยวกับร้านค้านี้
ค้นหาสินค้าในร้านนี้
ค้นหา
หรือค้นหาอย่างละเอียด
ค้นหาสินค้า
สินค้าที่ดูล่าสุด
{{pdata.name}}
ดูสินค้าทั้งหมดในร้าน
สินค้าที่ดูล่าสุด
บันทึกเป็นร้านโปรด
Join เป็นสมาชิกร้าน
แชร์หน้านี้
แชร์หน้านี้
↑
TOP
เลื่อนขึ้นบนสุด
คุณมีสินค้า
0
ชิ้นในตะกร้า
สั่งซื้อทันที
สินค้าในตะกร้า ({{total_num}} รายการ)
ขออภัย ขณะนี้ยังไม่มีสินค้าในตะกร้า
ราคาสินค้าทั้งหมด
฿ {{price_format(total_price)}}
- ฿ {{price_format(discount.price)}}
ราคาสินค้าทั้งหมด
{{total_quantity}} ชิ้น
฿ {{price_format(after_product_price)}}
ราคาไม่รวมค่าจัดส่ง
รวมภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว
ดูสินค้าในตะกร้า
เริ่มการสั่งซื้อ
➜
เลือกซื้อสินค้าเพิ่ม
พูดคุย-สอบถาม
อีเมล sloafbake@gmail.com
โทร 0814528290
Sloafbake
sloafbake
Add @sloafbake